- cwongsurasil
Cat Marketing เพิ่มพลังการสื่อสารเเบรนด์ผ่านความน่ารักของ “แมวเหมียว”

ไม่ว่าคุณจะเป็นทาสแมว หรือ เลี้ยงน้องเเมวไว้ในบ้านหรือไม่ เเต่ถ้าคุณได้เห็นน้องเเมวอ้วนๆ ขนปุย ตาเเบ๊ว ที่ทำท่าทางน่ารักใส่คุณ สิ่งเหล่านี้ต้องดึงดูดสายตาของคุณให้หันกลับมาสนใจจุดที่น้องเเมวอยู่ได้อย่างเเน่นอน
ความน่ารัก นับได้ว่าเป็นจุดขายสำคัญที่สามารถดึงดูดผู้คนได้ทั่วโลกไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใดก็ตาม น้องเเมวที่เรารู้จักนี้ก็เป็นอีกความน่ารักในรูปแบบของสัตว์ ที่สามารถเป็นเพื่อนรู้ใจในชีวิตประจำวันของมนุษย์ได้ คงไม่เเปลกนักที่นักการตลาดจะเห็นจุดขายในข้อนี้เเล้วให้ความน่ารักของน้องเเมวดึงดูดรายได้จากกลุ่มเป้าหมายอย่าง “ทาสเเมว” สายเปย์ และมีพร้อมเพย์ยอมจ่ายให้กับความน่ารักเพื่อเอาใจเจ้านายเเมวเหมียว
Cat Marketing คือ การใช้ความน่ารักของน้องเเมวเหมียวมาเป็นสื่อกลางในการสื่อสารเเบรนด์ไปยังผู้บริโภค ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปแบบของออนไลน์ หรือ ออฟไลน์ ก็ได้ ผ่านการสร้างสรรค์เเคมเปญการตลาด อาทิ การทำโฆษณาโดยมีน้องเเมวเป็นตัวละครหลัก, การถ่ายภาพสินค้าคู่กับน้องเเมว, การออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เป็นรูปน้องเเมว เป็นต้น
กรณีศึกษาที่เห็นได้ชัดเกี่ยวกับอิทธิพลของเเมวที่มีต่อความสนใจของคนจากทั่วโลกที่เชื่อว่าผู้อ่านคงรู้จักกันเเน่นอน คือ POP CAT เกมที่ออกแบบมาโดยใช้หน้าน้องเเมวอ้าปากเป็นตัวหลักในเกม ซึ่งสามารถสร้างการเข้าถึงผู้เล่นจากทั่วโลกได้ในเวลาไม่นาน จนกลายเป็นกระเเสการเเข่งเกมระหว่างประเทศที่ดุเดือด กดหน้าน้องเเมวกันจนนิ้วล็อก เรียกได้ว่า เหล่าทาสเเมวเเต่ละประเทศทั้งหลายไม่ยอมเเพ้กันเลยทีเดียว
อันดับในเกมที่มีการปรับเปลี่ยนตามจำนวนการกดหน้าน้องเเมว เป็นอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจซึ่งสามารถบ่งบอกได้ว่าประเทศไหนมีปริมาณทาสเเมว จุดนี้เองที่นักการตลาดสามารถนำมาใช้ดูกลุ่มคนในแต่ละประเทศว่า ประเทศไหนสามารถทำการตลาดโดยใช้น้องเเมวเป็นสื่อกลางเเล้วจะประสบความสำเร็จบ้าง และประเทศไทยเองเคยทำสถิติขึ้นอันดับหนึ่งของโลกมาหลายครั้ง เรียกได้ว่า ทาสเเมวไทยไม่เเพ้ชาติใดในโลก หากเลือกจะทำตลาดในกลุ่มคนไทย น้องเเมวเหมียว จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีในการขายของได้สำเร็จ
สินค้าเเละภาพตัวเเทนของน้องเเมว มักจะเป็นจุดดึงดูดผู้บริโภคในกลุ่มประเทศที่มีทาสเเมวเป็นจำนวนมาก หรือ มีแมวมาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม ความเชื่อ แมวจะกลายเป็นสัญลักษณ์ที่มี Soft Power ในตัวเองที่สามารถดึงดูดผู้คนได้เสมอ จึงมีการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ให้มีความเป็นเเมวอยู่ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีผลการวิจัยของ Sherril M.Stone จากมหาวิทยาลัย Northwestern Oklahoma State University ที่ออกมายืนยันว่า “แมวมีผลต่อจิตวิทยาของผู้บริโภค ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคเกิดอารมณ์ และความรู้สึกร่วมไปกับเรื่องราวโฆษณาที่นำเสนอ และผู้บริโภคส่วนใหญ่มักใช้อารมณ์และความรู้สึกในการตัดสินใจซื้อสินค้า มากพอๆ กับการใช้เหตุผล”
การนำน้องเเมวที่มีความน่ารักมาใช้ในด้านการสื่อสารเเบรนด์จึงเปรียบเสมือเครื่องมือทางการตลาดที่มีความคล้ายกับการสร้าง มาสคอตคาเเรคเตอร์ ที่มีรูปลักษณ์ที่เข้าถึงได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเเบรนด์ และลูกค้าได้ ด้วยจุดเด่นของมาสคอตสามารถออกแบบสร้างสรรค์ได้หลากหลายเพื่อให้ตรงกับความต้องการและยังสามารถอยู่คู่กับเเบรนด์ได้ในระยะยาวกว่าเเมวจริงๆ ที่มีอายุขัยจำกัด
ปัจจุบันการทำ มาสคอตที่สามารถดึงภาพลักษณ์ หรือ คาเเรคเตอร์ ที่น่าสนใจของน้องแมวเหมียว ออกมาสร้างเป็น มาสคอตคาเเรคเตอร์แมวเหมียว จึงเป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่กลุ่มบริษัทที่มองเห็นความสำคัญของกลุ่มคนที่ชอบเเมว รวมถึงการสร้างเเบรนด์ในระยะยาวเพื่อการเติบโตในอนาคตหันมาลองสร้างเครื่องมือสื่อสารเเบรนด์ ผ่านมาสคอตคาเเรคเตอร์ ร่วมกับ Cat Marketing
หากมีความสนใจในการสร้างมาสคอตเพื่อพัฒนาเเบรนด์ สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ Quan เพราะเราคือ บริษัทหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญการในการทำการตลาดเกี่ยวกับมาสคอตคาเเรคเตอร์จากประเทศญี่ปุ่น ที่มีสาขาอยู่ในหลายประเทศ ซึ่งตอนนี้ได้มีสาขาในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเเล้ว บริษัท Quan เรามีประสบการณ์การทำเเบรนด์ด้วยมาสคอตคาเเรคเตอร์ในระดับนานาชาติ ที่มีบริการเเบบครบวงจร ตั้งเเต่เริ่มวางแผน จัดทำ ไปจนถึงการดูเเลในระยะยาว ที่ตอบโจทย์องค์กรที่มีความสนใจอยากเริ่มต้นการตลาดด้วยมาสคอตคาเเรคเตอร์ สามารถติดต่อ หรือ ทัก inbox ได้ที่ https://web.facebook.com/QuanINCTH